PRM สตรอง! กำไรปกติ Q2/66 พุ่ง 134.2%
เตรียมลงทุนเรือเคมีเพิ่ม ดันรายได้ปีนี้โตเกิน 10%
บมจ. พริมา
มารีน (PRM) เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 กวาดรายได้รวม 2,096.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.1%
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรปกติ 497.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ที่มีกำไรปกติอยู่ที่ 212.36 ล้านบาท
หลังธุรกิจเรือเติบโตต่อเนื่อง ด้านผู้บริหาร "วิริทธิ์พล จุไรสินธุ์"
เปิดแผนกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง เน้นธุรกิจเรือขนส่งปิโตรเคมี และเรือกลุ่ม Offshore
Support หลังดีมานด์เติบโต พร้อมมองโอกาสซื้อเรือเพิ่มอีก 1-2 ลำ มั่นใจสนับสนุนรายได้ปีนี้เข้าเป้าหมายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
นายวิริทธิ์พล
จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี
บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) (PRM) เปิดเผยว่า
ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ
มีรายได้รวม 2,096.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 1,703.50 ล้านบาท
และมีกำไรปกติอยู่ที่ 497.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.2%
เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรปกติ 212.36 ล้านบาท
ปัจจัยสนับสนุนให้ผลประกอบการเติบโตมาจากทุกธุรกิจหลักของบริษัท
ประกอบด้วย 1.ธุรกิจเรือขนส่งในประเทศ (Domestic Trading) ซึ่งได้ผลบวกจากการเดินทางท่องเที่ยวและจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น
ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศ 2.
ธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศ (International Trading) จากการรับรู้รายได้เรือ
VLCC ครบ 3 ลำ
ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นไปตามแผนระยะยาวที่ได้วางไว้ ขณะที่ธุรกิจ (FSU)
กลับมาฟื้นตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
นายวิริทธิ์พล กล่าวอีกว่า
แผนธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงเน้นการขยายตัวใน 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ เรือขนส่งปิโตรเคมี
เพราะยังมีมุมมองในเรื่องความต้องการใช้เรือขนส่งปิโตรเคมี จะยังไม่ถูก Disruption
จากการเข้ามาของรถ EV และการขนส่งปิโตรเคมียังมีแนวโน้มที่ดีจากการขยายกำลังการผลิตของกลุ่มโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยในครึ่งปีหลังบริษัทฯมองแผนการลงทุนซื้อเรือขนส่งปิโตรเคมีเพิ่มเติม
อีกอย่างน้อย 1-2 ลำ
และอีก 1 ธุรกิจคือเรือกลุ่ม Offshore Support เพราะยังมีมุมมองเรื่องความต้องการใช้เรือในกลุ่มนี้ยังมีอีกมาก เนื่องจากสภาวะอุตสาหกรรมการสำรวจและผลิตน้ำมันในอ่าวไทยอยู่ในช่วงขยายตัวสอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
โดยนอกเหนือจากเรือ Crew Boat จำนวน 2
ลำที่บริษัทได้สั่งต่อไปแล้ว บริษัทฯ กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนเรือในกลุ่มนี้เพิ่มเติม
โดยบริษัทฯมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเข้าเป้า เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนตามเป้าหมาย